ปัจฉิมนิเทศ ปีการศึกษา ๒๕๕๖
•วัน•พุธ•ที่ 19 •มีนาคม• 2014 เวลา 20:03 น.• -
??Author: manager??
นายสุกิจ ยาพรม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต ๑ ให้เกียรติกล่าวปัจฉิมนิเทศโอวาทแก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนบ้านวังฟ่อน (สิทธิราษฎร์บำรุง) ซึ่งได้สำเร็จการศึกษาภาคบังคับ และมอบประกาศนียบัตรแก่นักเรียนที่จบการศึกษาชั้นสูงสุดของสถาบันนี้ โดยมีนายสมบัติ เสนวิรัช ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวรายงาน มีคณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา นักเรียนและผู้ปกครองเข้าร่วมงาน โรงเรียนบ้านวังฟ่อน (สิทธิราษฎร์บำรุง) เปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีนโยบายในการจัดการเรียนการสอนให้เด็กเป็นคนดี คนเก่ง คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ในปี ๒๕๕๖ มีนักเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๑๒ คน เป็นนักเรียนชาย ๘ คน นักเรียนหญิง ๔ คน •แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•พุธ•ที่ 19 •มีนาคม• 2014 เวลา 20:52 น.• ) ดร.ปาริชาติกับตำบลไฮเทค
•วัน•อังคาร•ที่ 18 •มีนาคม• 2014 เวลา 17:15 น.• -
??Author: manager??
วันอังคารที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๗ ทีมงานกลุ่มสารสนเทศการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ นำโดย ดร.ปาริชาติ บุญญาวิวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน อำเภอสอง อำเภอร้องกวาง และผู้นำตำบลประชุมปรึกษาหารือเพื่อเตรียมการดำเนินงานไอทีของชุมชนตามโครงการริเริ่มสร้างสรรค์ (๑+๑ เป็น ๑) "ตำบลไฮเทค ๑ in ๑" •แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•อังคาร•ที่ 18 •มีนาคม• 2014 เวลา 17:21 น.• ) โรงเรียนสีขาว ต้านยาเสพติด
•วัน•อังคาร•ที่ 18 •มีนาคม• 2014 เวลา 17:09 น.• -
??Author: manager??
วันอังคารที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๗ พันตำรวจโท พลภูมิ แสดงสกุลสุนทร รอง ผกก.(ป.) สภ.สอง นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สอง จ.แพร่ สุ่มตรวจสารเสพติดในปัสาวะ ประเภทแอมเฟตามีน ตามโครงการโรงเรียนสีขาวปลอดยาเสพติด ณ โรงเรียนบ้านวังฟ่อน สิทธิราษฎร์บํารุง โดยการร่วมมือกัน ๔ ภาคส่วนคือ ปกครองอำเภอสอง สภ.สอง โรงเรียนบ้านวังฟ่อน รพ.สต.บ้านวังฟ่อน เพื่อนำไปสู่การปลอดสารเสพติดภายในโรงเรียนสร้างภูมิคุ้มกันเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติด •แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•อังคาร•ที่ 18 •มีนาคม• 2014 เวลา 17:14 น.• ) โครงการช่วยภัยแล้งเขต ต.หัวเมือง
•วัน•จันทร์•ที่ 17 •มีนาคม• 2014 เวลา 14:19 น.• -
??Author: manager??
วันจันทร์ที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๗ นายสมพล พุ่มพวง ตัวแทนผู้นำหมู่บ้านและชาวเกษตรกรผู้ปลูกพืชฤดูแล้ง พื้นที่ตำบลหัวเมือง กราบขอบพระคุณไปยัง ธกส. สาขาสอง ที่มีโครงการ ธกส สู้ภัยแล้ง นำโดยคุณบุญทัน เทพแก้ว ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์จำกัด สาขาสอง นำเงินมาช่วยเหลือ ๗๐,๐๐๐ บาท (เจ็ดหมื่นบาทถ้วน) เพื่อนำมาซื้อน้ำมันใส่เครื่องสูบน้ำ และขอขอบคุณไปยัง อบต.หัวเมือง นำโดย คุณสาคร จิตชู นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเมืองที่นำเงินมาช่วยเหลือ จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) ขอบคุณนายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว กรมชลประทานในการจัดหาเครื่องสูบน้ำขนาด ๘ " จำนวน ๑ เครื่อง ขอบนายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ ในการจัดหาเครื่องสูบน้ำขนาด ๖ " จำนวน ๑ เครื่อง สุดท้ายขอบคุณปลัดนิกร ยะกะจาย ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อำเภอสอง ที่ห่วงใยประชาชนถึงพื้นที่ประสบภัย เมืองพระลอ
•วัน•อาทิตย์•ที่ 16 •มีนาคม• 2014 เวลา 11:46 น.• -
??Author: manager??
เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใดพี่เอย เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับไหล ลืมตื่น ฤาพี่ สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ ถามเผือ ลิลิตพระลอเป็นเรื่องซึ่งเกิดขึ้นระหว่าง 2 เมือง คือ "เมืองสรวง" กับ "เมืองสรอง" โดยเมืองสรวงมีเจ้าเมืองผู้ครองนคร ชื่อว่า "ท้าวแมนสรวง" มีพระชายาพระนามว่า "พระนางบุญเหลือ" ทั้งคู่มีโอรสพระองค์หนึ่งรูปงามมาก นามว่า "พระลอ" ส่วนเมืองสรองนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองสรวงมีเจ้าเมืองชื่ว่า "ท้าวพิมพิสาคร" ท้าวพิมพิสาครผู้นี้มีพระโอรสชื่อว่า "ท้าวพิไชยพิษณุกร" มีพระชายาชื่อว่าพระนางดาราวดี และมีพระธิดาสวยสดงดงามยิ่งชื่อว่า "พระเพื่อน กับพระแพง" คราวหนึ่งท้าวแมนสรวงได้ยกทัพไปตีเมืองสรอง ท้าวพิมพิสาคร ยกทัพไปต่อต้านจนตัวต้องสิ้นชีพไปบนคอช้าง ท้าวพิไชยพิษณุกรผู้เป็นโอรสจึงกันพระศพพระบิดาเข้าเมืองแล้วปิดประตูเมืองรักษาเมืองสรองไว้ได้ ฝ่ายท้าวแมนสรวงเห็นว่าตีเมืองสรองไม่ได้แน่จังยกทัพกลับคืนพระนคร สิ่งที่ทุกคนปรารถนาจะได้
•วัน•เสาร์•ที่ 15 •มีนาคม• 2014 เวลา 14:15 น.• -
??Author: manager??
คหบดี ! ธรรม ๔ ประการนี้ น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ หาได้ยากในโลก. ธรรม ๔ ประการ เป็นอย่างไรเล่า ? คือ :- ขอโภคะจงเกิดขึ้นแก่เราโดยทางธรรม นี้เป็นธรรม ประการที่ ๑ อันน่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ หาได้ยากในโลก. เราได้โภคะทั้งหลายโดยทางธรรมแล้ว ขอยศจงเฟื่องฟูแก่เราพร้อมด้วยญาติและมิตรสหาย นี้เป็นธรรม ประการที่ ๒ อันน่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจหาได้ยากในโลก. เราได้โภคะทั้งหลายโดยทางธรรมแล้ว ได้ยศพร้อมด้วยญาติและมิตรสหายแล้ว ขอเราจงเป็นอยู่นาน จงรักษาอายุให้ยั่งยืน นี้เป็นธรรม ประการที่ ๓ อันน่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ หาได้ยากในโลก. เราได้โภคะทั้งหลายโดยทางธรรมแล้ว ได้ยศพร้อมด้วยญาติและมิตรสหายแล้ว เป็นอยู่นานรักษา อายุให้ยั่งยืนแล้ว เมื่อตายแล้ว ขอเราจงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ นี้เป็นธรรม ประการที่ ๔ อันน่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ หาได้ยากในโลก. ร้อยเรียงร้อยเรื่องเมืองลอง ตอนที่ ๒๑
•วัน•พฤหัสบดี•ที่ 13 •มีนาคม• 2014 เวลา 19:12 น.• -
??Author: manager??
เมืองลองจากจารึก พงศาวดาร และวรรณกรรม (ต่อ) และหลังจากปีที่โอนอำเภอลองจากจังหวัดลำปางมาขึ้นกับจังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๔ สำนึกเรื่องนี้ของคนเมืองลองก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง เช่น “...จันทยสรัสสะภิกขุ เขียนปลางเมื่ออยู่ปฏิบัตวัดสรีดอนไชยแม่ลองแก้วกว้าง ทางกลางเมืองลองวันนั้นแล...” ต่างไปจากเมืองขึ้นอื่นๆ ของลำปาง เช่น เมืองแจ้ห่ม จากการสำรวจจารึกท้ายคัมภีร์ใบลานวัดผาแดงหลวง พบว่าคนภายในเมืองจะระบุตำแหน่งของเมืองแจ้ห่มเป็น “หัวเมืองนคร” คือเป็นหัวเมืองของเมืองลำปาง เช่น “...กัญจนภิกขุลิขิตปางเมื่อปฏิบัตสำราญครูบาหลวงอินทะ วัดผาแดงแก้วกว้าง ทางหัวเวียงนคอรไชย...” ฆราวาสชั้นเลิศ
•วัน•เสาร์•ที่ 08 •มีนาคม• 2014 เวลา 13:01 น.• -
??Author: manager??
คหบดี ! ในบรรดากามโภคีเหล่านั้น กามโภคีผู้ใดแสวงหาโภคทรัพย์โดยธรรม โดยไม่เครียดครัดด้วย, ครั้นแสวงหาโภคทรัพย์โดยธรรม โดยไม่เครียดครัดแล้วทำตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำด้วย, แบ่งปันโภคทรัพย์บำเพ็ญบุญด้วย, ไม่กำหนัด ไม่มัวเมา ไม่ลุ่มหลง มีปกติเห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์เหล่านั้นอยู่ด้วย; ร้อยเรียงร้อยเรื่องเมืองลอง ตอนที่ ๒๐
•วัน•พฤหัสบดี•ที่ 06 •มีนาคม• 2014 เวลา 22:00 น.• -
??Author: manager??
เมืองลองจากจารึก พงศาวดาร และวรรณกรรม ๑. เมืองลองจากจารึกต่างๆ เมืองลองก็เป็นเมืองหนึ่งที่อุดมไปด้วยหลักฐานต่างๆ แต่ทว่าหลักฐานเหล่านี้ได้กระจัดกระจายอย่างมาก ดังเช่นจารึกในเมืองลองจารึกที่เป็นอักษรสุโขทัยมีจำนวน ๒ หลัก แต่ชำรุดเสียหายมากอีกทั้งไม่ระบุปีศักราชไว้ พอสันนิษฐานได้เพียงว่าในสมัยสุโขทัยเจ้าเมืองลองมีตำแหน่งเป็นขุนเช่นเดียวกับเจ้าเมืองตรอกสลอบ ดังที่ปรากฏในศิลาจารึกว่า “...ออกขุน (เนี)ยรพาน ก่อน...” นอกจากนั้นจารึกเก่าที่สุดก็เป็นจารึกในพุทธศตวรรษที่ ๒๔ ที่กล่าวถึงการทำบุญและเหตุการณ์ต่างๆ ไว้ ดังที่มีจารึกฐานพระพุทธรูปไม้ และจารึกท้ายคัมภีร์ใบลาน ที่เป็นการบันทึกเหตุการณ์ร่วมสมัยภายในเมืองลอง มนุษย์ผี
•วัน•เสาร์•ที่ 01 •มีนาคม• 2014 เวลา 08:46 น.• -
??Author: manager??
คหบดีและคหปตานีทั้งหลาย การอยู่ร่วม ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นอย่างไรเล่า ? คือ :- (๑) ชายผีอยู่ร่วมกับหญิงผี (๒) ชายผีอยู่ร่วมกับหญิงเทวดา (๓) ชายเทวดาอยู่ร่วมกับหญิงผี (๔) ชายเทวดา อยู่ร่วมกับหญิงเทวดา คหบดีและคหปตานีทั้งหลาย ! ก็ชายผีอยู่ร่วมกับหญิงผีอย่างไร ? •แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•เสาร์•ที่ 08 •มีนาคม• 2014 เวลา 13:01 น.• ) |
ร้อยเรียงร้อยเรื่องเมืองลอง ตอนที่ ๑๘ - ๑๙
•วัน•พุธ•ที่ 26 •กุมภาพันธ์• 2014 เวลา 12:25 น.• -
??Author: manager??
ร้อยเรียงร้อยเรื่องเมืองลอง ตอนที่ ๑๘ การรับรู้เรื่องเมืองลองผ่านตำนานต่างถิ่น ตำนานในล้านนามีจำนวนมากมาย ทั้งที่เป็นตำนานฝ่ายวัดและตำนานฝ่ายเมืองหรือพื้นเมือง แต่ทว่าตำนานฝ่ายเมืองมีจำนวนน้อยกว่าตำนานฝ่ายวัดมาก ตำนานฝ่ายเมืองเช่น พื้นเมืองเชียงแสน, พื้นเมืองเชียงราย เชียงแสน, คำมะเกล่าเมืองเชียงแสน,พื้นเมืองน่าน และพื้นเมืองเชียงราย เป็นต้น โดยจะสังเกตได้ว่าพื้นเมืองเหล่านี้ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเมืองลองโดยตรง กรอปกับเมืองลองเป็นเมืองเล็ก อีกทั้งศูนย์กลางการเขียนตำนานอยู่ไกลจากเมืองลอง ดังนั้นพื้นเมืองที่กล่าวมาข้างต้นจึงไม่ปรากฏเรื่องราวหรือชื่อของเมืองลองอยู่เลย โดยพื้นเมืองเหล่านี้จะกล่าวรวมว่าเมืองลคอร(ลำปาง) โดยไม่ให้รายละเอียดถึงเมืองเล็กๆ ที่ขึ้นต่อเมืองลคอรเลย หรือแม้แต่พื้นเมืองเชียงใหม่ในส่วนของเรื่องสมัยราชวงศ์มังราย ก็ไม่กล่าวถึงชื่อเมืองลองหรือเมืองต้าไว้เลย มีระบุไว้เพียงแต่พระแม่กุเคยใช้เป็นเส้นทางทรงเดินทางกลับเมืองเชียงใหม่หลังจากรบศึกชวา(หลวงพระบาง)ที่เชียงแสนผ่านเมืองแพร่ และพัก ๑ คืนที่น้ำต้า เมื่อปีพ.ศ.๒๑๐๑ เป็นที่น่าสังเกตว่าช่วงเวลานี้ทำไมตำนานถึงไม่เรียกที่พระแม่กุพักแรมว่าเมืองต้า หรือเวียงต้า เพราะน้ำแม่ต้าก็ไหลผ่านเมืองต้าอยู่แล้ว พิธีกรรมศพแบบพุทธแท้ ตอนที่ ๙
•วัน•เสาร์•ที่ 22 •กุมภาพันธ์• 2014 เวลา 11:03 น.• -
??Author: manager??
อรรถกถายสวัตถุ บทว่า ปุพฺพานุปุพฺพกานํ มีความว่า เก่าแก่เป็นลำดับด้วยอำนาจความสืบสายกัน. ข้อว่า เตน โข ปน สมเย เอกสฏฺฐิ โลเก อรหนฺโต โหนฺติ มีความว่า ภายในพรรษาเท่านั้น มีมนุษย์เป็นพระอรหันต์ ๖๑ องค์ คือ พวกก่อน ๖ องค์ และพวกนี้อีก ๕๕ องค์. บรรดามนุษย์เหล่านั้น ยสกุลบุตร เป็นต้น มีบุพประโยคดังต่อไปนี้:- ดังได้ยินมา ในอดีตกาล สหาย ๕๕ คน จะทำบุญร่วมพวกกัน จึงเที่ยวช่วยกันจัดการศพคนอนาถา. วันหนึ่งพวกเขาพบทญิงมีครรภ์ทำกาลกิริยาคิดว่า จักเผา จึงนำไปยังป่าช้า. ในพวกเขา เว้นไว้ที่ป่าช้า ๕ คน สั่งว่า จงช่วยกันเผา ส่วนที่เหลือพากันเข้าบ้าน. พ่อยศผู้ทรามวัย แทงและพลิกศพนั้น ให้ไหม้อยู่ ก็ได้อสุภสัญญา. รักต้นฉบับ
•วัน•อาทิตย์•ที่ 16 •กุมภาพันธ์• 2014 เวลา 10:24 น.• -
??Author: manager??
พระธรรม 1 โครินทร์ 13:4-7 4ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง ความรักคืออะไร และความรักมาจากไหน หลายคนไม่รู้เลยหรืออาจจะยังไม่เคยคิดเลยว่าความรักคืออะไรและความรักมาจากไหน รู้อยู่อย่างเดียวว่า ฉันต้องการความรัก มีพระคัมภีร์ตอนหนึ่งบอกว่า “พระเจ้าทรงประทานความรักแก่เราทั้งหลาย (1ยอห์น 3:1) พระเจ้าประทานความรักให้กับเรา ทำให้เราทั้งหลายจึงรู้จักความรัก (1ยอห์น3:16) ว่ามาจากไหน พระเจ้าทรงเป็นแหล่งแห่งความรัก (1ยอห์น4:7) ทำให้ความรักของเรานั้นสมบูรณ์ (1ยอห์น4:17) แต่ความรักที่เราแสดงออกมาบิดเบี้ยวก็เพราะว่าเราเป็นคนบาป ความรักของเราจึงไม่สมบูรณ์ แต่ความรักของพระเจ้านั้นไม่มีที่ติ พระองค์ทรงเป็นต้นฉบับหรือแบบฉบับแห่งความรัก ซึ่งเราสามารถเห็นได้จากพระธรรมตอนนี้ 6 ประการ คือ •แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•อาทิตย์•ที่ 16 •กุมภาพันธ์• 2014 เวลา 10:30 น.• ) ความรัก หนึ่งในคุณสมบัติของมุสลิมที่แท้จริง
•วัน•พฤหัสบดี•ที่ 13 •กุมภาพันธ์• 2014 เวลา 19:52 น.• -
??Author: manager??
ความรักคืออะไร? ความรัก คือความรู้สึกทางจิตใจอันลึกซึ้ง ละเมียดละไมที่มีต่อกันระหว่างบุคคลที่มีศรัทธาต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญ คนเราเมื่อศรัทธาในสิ่งใดก็จะค่อย ๆ โน้มน้าวจิตใจให้เกิดความรู้สึกรัก โดยพัฒนามาเป็นขั้น ๆ อันประกอบด้วยความเมตตา ความอาทร ความหวังดี และให้อภัยเป็นประการสำคัญ ที่รักที่เจริญใจในโลก
•วัน•พฤหัสบดี•ที่ 13 •กุมภาพันธ์• 2014 เวลา 18:41 น.• -
??Author: manager??
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นที่รักที่เจริญใจในโลก. ตัณหา เมื่อจะเกิด ย่อมเกิดที่นี้ เมื่อจะตั้งอยู่ย่อมตั้งอยู่ในที่นี่. ตัณหา เมื่อบุคคลจะละ ย่อมละเสียได้ในที่นี้เมื่อจะดับ ย่อมดับในที่นี่. รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ สิ่งที่ทำหน้าที่รู้ (วิญญาณ) ทางตา สิ่งที่ทำหน้าที่รู้ทางหู...ทางจมูก...ทางลิ้น...ทางกาย...ทางใจ. ติดตามการจัดการเรียนการสอน
•วัน•อังคาร•ที่ 11 •กุมภาพันธ์• 2014 เวลา 15:40 น.• -
??Author: manager??
วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 ผอ.สุรศักดิ์ เพิ่มผล ผู้อำนวยการสถาบันทางไกลและคณะ ผอ.สนิท กาญจนประดิษฐ์ ผอ.กศน.แพร่ และคณะบุคลากร กศน แพร่ ติดตามการจัดการเรียนการสอนแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ณ กศน.อำเภอสูงเม่น, กศน.อำเภอเด่นชัย และ กศน.อำเภอหนองม่วงไข่ จารุบัณณ์ คันธวัง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รายงาน •แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•พุธ•ที่ 12 •กุมภาพันธ์• 2014 เวลา 17:35 น.• ) พิธีกรรมศพแบบพุทธแท้ ตอนที่ ๘
•วัน•พฤหัสบดี•ที่ 23 •มกราคม• 2014 เวลา 14:48 น.• -
??Author: manager??
ติโรกุฑฑสูตร ว่าด้วยการให้ส่วนบุญแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแก่พระเจ้าพิมพิสาร เป็นคาถาว่า [๘] ฝูงเปรตพากันมายังเรือนของตน ยืนอยู่ที่นอกฝาเรือนบ้าง ยืนอยู่ที่ทาง ๔ แพร่ง ๓ แพร่งบ้าง ยืนอยู่ใกล้บานประตูบ้าง. เมื่อข้าวน้ำ ของเคี้ยว ของกินเขาวางไว้เป็นอันมาก ญาติไร ๆ ของเปรตเหล่านั้น ก็ระลึกไม่ได้ เพราะกรรมของสัตว์ทั้งหลายเป็นปัจจัย. ชนเหล่าใด เป็นผู้เอ็นดู ชนเหล่านั้นย่อมให้น้ำข้าว อันสะอาด ประณีต อันสมควร ตามกาล อุทิศเพื่อญาติทั้งหลาย อย่างนี้ว่า ขอทานนี้แล จงมีแก่ญาติทั้งหลาย ขอญาติทั้งหลาย จงมีสุขเถิด. •แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•พฤหัสบดี•ที่ 06 •กุมภาพันธ์• 2014 เวลา 21:12 น.• ) คู่บุพเพสันนิวาส และภรรยา ๗ จำพวก
•วัน•พุธ•ที่ 29 •มกราคม• 2014 เวลา 13:07 น.• -
??Author: manager??
คู่บุพเพสันนิวาส ภิกษุทั้งหลาย ถ้าภรรยาและสามีทั้งสองพึงหวังพบกันและกันทั้งในปัจจุบัน และในสัมปรายภพ ทั้งสองเทียวพึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ. ภรรยาและสามีทั้งสอง เป็นผู้มีศรัทธา รู้ความประสงค์ของผู้ขอ มีความสำรวม เป็นอยู่โดยธรรมเจรจาคำที่น่ารักแก่กันและกัน ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความผาสุกทั้งสองฝ่าย มีศีลเสมอกัน รักใคร่กันมากไม่มีใจร้ายต่อกัน ประพฤติธรรมในโลกนี้แล้ว ทั้งสองเป็นผู้มีศีลและวัตรเสมอกัน ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่ในเทวโลก. จตุกฺก. อํ. ๒๑/๘๑/๕๖ •แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•พฤหัสบดี•ที่ 30 •มกราคม• 2014 เวลา 20:29 น.• ) พิธีกรรมศพแบบพุทธแท้ ตอนที่ ๗
•วัน•พุธ•ที่ 22 •มกราคม• 2014 เวลา 22:31 น.• -
??Author: manager??
๑๐. นารทสูตร ว่าด้วยฐานะ ๕ ที่ใคร ๆ ในโลกไม่พึงได้ [๕๐] สมัยหนึ่ง ท่านพระนารทะอยู่ที่กุกกุฎาราม ใกล้พระนครปาตลีบุตร ก็สมัยนั้น พระนางภัททาราชเทวี ผู้เป็นที่รัก เป็นที่พอพระทัยแห่งพระราชาพระนามว่ามุณฑะ ได้ทิวงคต เมื่อพระนางภัททาราชเทวี ผู้เป็นที่รักเป็นที่พอพระทัย ทิวงคตไปแล้ว พระราชาก็ไม่สรงสนาน ไม่ทรงแต่งพระองค์ ไม่เสวย ไม่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ทรงซบเซาอยู่ที่พระศพพระนางตลอดคืนตลอดวัน ครั้งนั้น พระราชาได้ตรัสสั่งมหาอำมาตย์ชื่อว่าโสการักขะผู้เป็นที่รักว่า ท่านโสการักขะผู้เป็นที่รัก ท่านจงยกพระศพพระนางภัททาราชเทวีลงในรางเหล็กที่เต็มด้วยน้ำมัน แล้วปิดด้วยรางเหล็กอันอื่นอีก เพื่อให้เราได้เห็นพระศพพระนางนานได้เท่าไรยิ่งดี โสการักขะมหาอำมาตย์รับสนองพระบรมราชโองการแล้ว ก็ได้จัดการยกพระศพพระนางลงในรางเหล็กที่เต็มด้วยน้ำมัน แล้วปิดด้วยรางเหล็กอันอื่นอีก ครั้งนั้นโสการักขะมหาอำมาตย์จึงคิดว่า เมื่อพระนางภัททาราชเทวี ผู้เป็นที่รัก ที่พอพระทัย แห่งพระเจ้ามุณฑะนี้ ได้ทิวงคตไปแล้ว พระราชาไม่สรงสนาน ไม่ทรงแต่งพระองค์ ไม่เสวย ไม่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ทรงซบเซาอยู่ที่พระศพพระนางตลอดคืนตลอดวัน พระราชาพึงเสด็จเข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์รูปใดหนอ ได้ทรงสดับธรรมแล้ว จะพึงทรงละลูกศร คือความโศกได้ ลำดับนั้น โสการักขะมหาอำมาตย์จึงคิดว่า ท่านพระนารทะรูปนี้ อยู่ที่กุกกุฏาราม ใกล้พระนครปาตลีบุตร ก็กิตติศัพท์อันงามของท่านพระนารทะขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า เป็นบัณฑิต ฉลาด มีปัญญา เป็นพหูสูต มีถ้อยคำวิจิตร มีปฏิภาณดีงาม เป็นวุฑฒบุคคล และเป็นพระอรหันต์ จึงควรที่พระเจ้ามุณฑะจะเสด็จเข้าไปหา เพื่อบางทีได้ทรงสดับธรรมของท่านแล้วพึงทรงละลูกศร คือ ความโศกได้. ห้ามผู้อื่นให้ทาน ชื่อว่าไม่ใช่มิตร
•วัน•อังคาร•ที่ 14 •มกราคม• 2014 เวลา 21:10 น.• -
??Author: manager??
วัจฉะ ! ผู้ใดห้ามผู้อื่นซึ่งให้ทาน ผู้นั้นชื่อว่า เป็นอมิตร ผู้ทำอันตรายสิ่ง ๓ สิ่ง คือ :- ทำอันตรายต่อบุญของทายก (ผู้ให้ทาน), ทำอันตรายต่อลาภของปฏิคาหก (ผู้รับทาน), และตัวเองก็ขุดรากตัวเองกำจัดตัวเองเสียตั้งแต่แรกแล้ว. วัจฉะ ! ผู้ที่ห้ามผู้อื่นซึ่งให้ทาน ชื่อว่าเป็นอมิตร ผู้ทำอันตรายสิ่ง ๓ สิ่ง ดังนี้แล. |
<< •เริ่มแรก• < •ย้อนกลับ• 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 •ถัดไป• > •สุดท้าย• >>
•หน้า 4 จาก 33•