เชียงใหม่คือถิ่นไทยงามคือแดนดอกเอื้องเมืองแหน่งวัฒนธรรมเชียงใหม่ที่สันกำแพงและลำพูนมีเครื่องเงินเครืองเขินและช่างไม้ มีร่ม มีกุหลาบ มีลำไย ประวัติศาสตร์ก็มีวีรสตรีชาวเชียงใหม่ชื่อนางเมือง นางเมืองคนนี้เป็นภรรยาของเจ้าหมื่นโลกนครแม่ทัพคนสำคัญของพรเจ้าแสนเมืองมากษัตริย์แห่งนครพิงค์ พระเจ้าแสนเมืองมามีพระชนมายุเพียงสิบสี่พรรษาก็ได้ขึ้นเถลิงราชสมบัติสืนสนองพระราชบิดาคือท้าวกือนาซึ่งเสด็จทิวงคตที่นครพิงค์เชียงใหม่ มีเจ้าทาวมหาพรหมผู้ครองเมืองเชียงรายซึ่งเป็นพระอนุชาของพ่อท้าวกือนาได้ทราบข่าวพระเชษฐาทิวงคตและพระราชบุตรได้สืบราชสมบัติก็ไม่พอพระทัยจักแจงยกรี้พลมาเป็นอันมากเพื่อจะแย่งราชสมบัติจากเจ้าแสนเมืองมา เจ้าท้าวมหาพรหมยกโยธาไปตั่งอยูที่หนองพะชีแล้วให้ใช้คนไปบอกแก่อัครมหาเสนาที่ชื่อแสนผานอง ว่าจะขอเข้าไปถวายบังคมพระบรมศพพระเจ้ากือนา แสนผานองนั้นทราบระแคะระคายมาแล้วก็ตอบไปว่า จะได้จัดพิธีรับรองให้สมพระเกียติยศแล้วท่านอัครมหาเสนาแสนผานองก็จัดกำลังพลหมื่นหนึ่งขึ้นประจำรักษาพระนครและจัดอีกกองหนึ่งตั้งไว้นอกเมืองให้ตีฆ้องกลองโห่ร้องเอิกเกริกไปเป็นโกลาหลเจ้าท้าวมหาพรหมรู้ทันเหมือนกันว่าเขาเตรียมรับมือก็เลยถอยทัพไปลงไปทางใต้กวาเอาครัวชาวเวียงกุมกามไปด้วยมีผู้หญิงเด็กแล้วก็ข้าวของเงินทองอีกบ้างยกเลยไปตั้งที่ริมน้ำแม่ขานเดี๋ยวนี้อยู่เขตอำเภอจอมทองแสนผานองก็ให้หมื่นนครคุมทหารอยู่รักษาเมืองตัวเองคุมพลเจ็ดพันยกตามไปต่อตีกับเจ้าท้าวมหาพรหมไปทันกันเวลาเที่ยงคืนต่อสู้กัน

แสนผานองชนะได้ทรัพย์สินและผู้ที่ท้าวมหาพรหมกวาดเอาไปได้คืนมาแล้วยังได้ช้างมาและอาวุธและเชลยอีกมากมายเจ้ามหาพรหมก็แพ้ก็เลยพาไพร่พลที่เหลือตายไปยังแดนเฉลี่ยงหรือชเลียงไปพึ่งพระบรมไตรจักร์กรุงศรีอยุทธยาทางฝ่ายแสนผานองก็เลิกทัพกลับคืนนครเชียงใหม่เรียบประชุมเสนามาตย์ทั้งหลายมาปรึกษากันว่าท้าวมหาพรหมหนีไปเมืองใต้ครั้งนี้ดีร้ายคงจะนำกองทัพกรุงศรีอยุทธยามาติดเมืองเป็นแน่พระศพเจ้าท้าวกือนาก็ยังไม่ได้จัดการประการใดจำจะต้องจัดการเรื่องป้องกันบ้านเมืองเสียก่อนตกลงกันแล้วก็ให้เจาะพังกำแพงเมืองด้านวัดพราหมณ์แล้วเชิญพระศพเจ้าท้าวกือนาเข้ามาไว้ในเวียงแล้วก่อกำแพงที่พังนั้นให้ดีดังกล่าว ก็เจ้าท้าวกือนาท่านเสด็จออกไปประทับอยู่นอกเวียงด้านเหนือแล้วเลยประชวรและทิวงคตที่วังนอกเมือง ขอเชิญพระศพเข้าไว้ในเวียงแล้วก็ตกแต่งป้อมคูประตูหอรบกันเป็นการใหญ่เตียมรับศึกอยุธยา เมื่อตกแต่งบ้านเมืองคอยรับการโจมตีเสร็จแล้วเจ้าหมื่นแสนโลกนครก็ยกรี้พลไปรักษาเมืองเขลางค์ไว้เพราะเป็นเมืองหน้าด่านกองทัพที่จะยกขึ้นไปตีนครพิงค์ก็ต้องผ่านเมืองเขลางค์นี่ก่อน เจ้าท้าวมหาพรหมจึงได้นำกองทัพอยุธยายกขึ้นมาทางนครเขลางค์คือเมืองลำปาง คงจะฝึกทหารฝึกเพลงอาวุธไปด้วยเรียกการรบไปด้วยคอยรับมือกับฝ่ายศัตรูพอกองทัพได้ยกมาเจ้าหมื่นโลกนครก็แต่งทัพช้างยกออกไปตั้งรับที่ตำบลเชียงภูมิอยู่ตรงไหนยังไม่มีใครรู้คิดว่าอยู่แถวๆเมืองลำปางนั่นแหละตอนนี้ชีภรรยาเจ้าหมื่นโลกนครก็ลุกขึ้นไปอาสาออกช่วยสามีรบกับฝ่ายเจ้าท้าวมหาพรหมทั้งๆที่ตอนนั้นยังกำลังมีครรภ์อ่อนๆอยู่ เจ้าหมื่นโลกนครก็อนุญาติท่านผู้หญิงเมืองก็แต่งตัวเป็นชายขึ้นทรงช้างอ้ายน้อยออกช่วยสามีเป็นสามารถทั้งสองฝ่ายได้ทำการสู้รบกันอย่างดุเดือดจนตำบลที่มีการต่อสู้นั้นเรียกว่าตำบลแสนสนุกที่ลำปางปัจจุบันมีตำบลหนึ่งชื่อว่าตำบลปงสนุกคงเลื่อนมาจากแสนสนุกกองทัพไทยที่เจ้ามหาพรหมคุมมาต้องล่าถอยไปทางเมืองลี้อยู่ในเขตจังหวัดลำพูนแล้วก็เลยล่ากลับไปยังกรุงศรีอยุธยาตอนหลังก็คลอดบุตรเป็นชายเลยได้รับขนานนามเป็น “เจ้าหาญแต่ท้อง” ตอนหลังได้เจ้าเมืองเขลางค์มีพระนามเป็นที่รู้จักในประวัติศาสตร์รบว่า “เจ้าหมื่นดังนคร” สำหรับเจ้าหมื่นโลกนครผู้นี้เคยประกอบวีรกรรมที่สำคัญหลายครั้งตอนหลังได้รับพระราชทานชื่อใหม่ว่าเจ้าหมื่นโลกสามล้านเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของพระเจ้าแสนเมืองมายิ่งนักมีปัญหาอะไรก็ต้องทรงปรึกษา

 

•แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•จันทร์•ที่ 13 •กุมภาพันธ์• 2012 เวลา 16:15 น.• )