วัดนาบุญ ตำบลหัวทุ่ง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เดิมทีนั้นเป็นวัดที่มีความเก่าแก่ มีตำนานเล่าขานกันว่า สมัยพุทธกาลแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาเพื่อเผื่อแผ่พระพุทธศาสนาพร้อมพระอรหันตสาวก ได้เดินทางมาถึงสถานที่ตั้งของวัดนาบุญ เนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นป่าเขา  และมีลำห้วยที่ไหลผ่านใช้ในการบริโภคได้มาเสด็จมาถึง ก็เกิดอาการเมื่อยล้าพระวรกาย จึงได้เสด็จประทับอยู่ ณ บริเวณของวัดนาบุญ  เมื่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นทราบข่าวว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับ ประจวบกับฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวเย็น ชาวบ้านจึงพากันหาฟืนมาจุดไฟเป็นพุทธบูชา และเพื่อเป็นการคลายความหนาวเย็น พระองค์ทรงยื่นพระบาทมาผิงไฟ ใช้ผ้าลนกันเปลวไฟและนำมาประกบบริเวณน่องของพระองค์ หมู่บ้านเล็กแห่งนี้จึงเป็นที่เรียกขานกันว่า “บ้านนาอุ่มน่อง” (คำว่าอุ่ม เป็นภาษาพื้นเมืองของทางภาคเหนือหมายความว่า  กิริยาอาการที่ใช้มือประกบสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง) ต่อมาก็เรียกกันเพี้ยนไปเป็น นาอุ่นน่อง หมู่บ้านบริเวณนี้ในปัจจุบันจึงมีชื่อว่า “บ้านนาอุ่นน่อง” หลังจากนั้นพระองค์ทรงได้มีพุทธทำนายไว้ว่า “ต่อนี้ไปในภายภาคหน้าสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่เจริญรุ่งเรืองในบวรพระพุทธศาสนา เปรียญดังนาบุญของบริษัททั้งหลาย” ต่อมาในพระพุทธศักราช ๒๔๒๑ ชาวบ้านได้พบซากโบราณสถานแห่งหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของห้วยแม่ลอง ห่างจากวัดนาบุญประมาณ ๑ กิโลเมตร ชาวบ้านจึงได้ปรึกษากันสร้างที่พำนักสงฆ์ขึ้นมาเพื่อเป็นสถานจำพรรษาของพระภิกษุ - สามเณร  โดยการนำของ นายบุญมา สมภาร โดยได้นิมนต์ พระประสาน เอ้ยวัน มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก

ต่อมาอีก ๕ ปี ชาวบ้านจึงได้ปรึกษากัน  เพื่อที่จะย้ายวัดเพื่อสร้างวัดใหม่ สาเหตุเพราะสถานที่ตั้งวัดเดิมนั้น ในฤดูฝน(กลางพรรษา) น้ำห้วยแม่ลองหลากและสมัยนั้นไม่มีสะพานทำให้พระภิกษุไม่สามารถประกิจทางศาสนาได้ และไม่มีภัตราหารเพื่อฉัน  ชาวบ้านก็ไม่สามารถข้ามน้ำไปทำบุญได้  จึงได้คัดเลือกสถานที่ ในตำนานว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับอยู่  จึงได้สร้างวัดในมี่ปัจจุบัน วัดนาบุญเดิมที ชื่อวัดนาอุ่นน่อง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดนาบุญ ตามตำนานพุทธทำนายที่ว่า “ต่อนี้ไปในภายภาคหน้าสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่เจริญรุ่งเรืองในบวรพระพุทธศาสนาเปรียญดังนาบุญของบริษัททั้งหลาย”  โดยได้จับจองพื้นที่ไว้ ๑ ไร่ ๗๑ ตารางวา  วัดนาบุญได้รับพระราวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๘๑ คณะศรัทธาจึงได้ตกลงกันให้มีการประกอบพิธีผูกพัทธสีมา โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ ๒๗ - ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ รวม ๓ วัน ๓ คืน วัดนาบุญ ตำบลหัวทุ่ง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เดิมทีนั้นเป็นวัดที่มีความเก่าแก่ มีตำนานเล่าขานกันว่า  สมัยพุทธกาลแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาเพื่อเผื่อแผ่พระพุทธศาสนาพร้อมพระอรหันตสาวก ได้เดินทางมาถึงสถานที่ตั้งของวัดนาบุญ เนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นป่าเขา  และมีลำห้วยที่ไหลผ่านใช้ในการบริโภคได้มาเสด็จมาถึง ก็เกิดอาการเมื่อยล้าพระวรกาย จึงได้เสด็จประทับอยู่ ณ บริเวณของวัดนาบุญ  เมื่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นทราบข่าวว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับ ประจวบกับฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวเย็น ชาวบ้านจึงพากันหาฟืนมาจุดไฟเป็นพุทธบูชา และเพื่อเป็นการคลายความหนาวเย็น  พระองค์ทรงยื่นพระบาทมาผิงไฟ ใช้ผ้าลนกันเปลวไฟและนำมาประกบบริเวณน่องของพระองค์ หมู่บ้านเล็กแห่งนี้จึงเป็นที่เรียกขานกันว่า “บ้านนาอุ่มน่อง” (คำว่าอุ่ม เป็นภาษาพื้นเมืองของทางภาคเหนือหมายความว่า กิริยาอาการที่ใช้มือประกบสิ่งใดสิ่งหนึ่ง  หรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง) ต่อมาก็เรียกกันเพี้ยนไปเป็น นาอุ่นน่อง หมู่บ้านบริเวณนี้ในปัจจุบันจึงมีชื่อว่า “บ้านนาอุ่นน่อง” หลังจากนั้นพระองค์ทรงได้มีพุทธทำนายไว้ว่า “ต่อนี้ไปในภายภาคหน้าสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่เจริญรุ่งเรืองในบวรพระพุทธศาสนา เปรียญดังนาบุญของบริษัททั้งหลาย” ต่อมาในพระพุทธศักราช  ๒๔๒๑ ชาวบ้านได้พบซากโบราณสถานแห่งหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของห้วยแม่ลอง  ห่างจากวัดนาบุญประมาณ ๑กิโลเมตร ชาวบ้านจึงได้ปรึกษากันสร้างที่พำนักสงฆ์ขึ้นมาเพื่อเป็นสถานจำพรรษาของพระภิกษุ - สามเณร โดยการนำของ นายบุญมา สมภาร โดยได้นิมนต์  พระประสาน  เอ้ยวัน  มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ต่อมาอีก ๕ ปี ชาวบ้านจึงได้ปรึกษากัน เพื่อที่จะย้ายวัดเพื่อสร้างวัดใหม่ สาเหตุเพราะสถานที่ตั้งวัดเดิมนั้น ในฤดูฝน(กลางพรรษา)  น้ำห้วยแม่ลองหลากและสมัยนั้นไม่มีสะพานทำให้พระภิกษุไม่สามารถประกิจทางศาสนาได้  และไม่มีภัตราหารเพื่อฉัน และอีกประการเนื่องจากแถวนั้นในสมัยก่อนมีเสือเโคร่งเป็นจำนวนมากและได้เดินมาหากินแถวๆบริเวณวัดเก่า และชาวบ้านก็ไม่สามารถข้ามน้ำไปทำบุญได้  จึงได้คัดเลือกสถานที่ ในตำนานว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับอยู่  จึงได้สร้างวัดในมี่ปัจจุบัน  วัดนาบุญเดิมที ชื่อวัดนาอุ่นน่อง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดนาบุญ ตามตำนานพุทธทำนายที่ว่า “ต่อนี้ไปในภายภาคหน้าสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่เจริญรุ่งเรืองในบวรพระพุทธศาสนาเปรียญดังนาบุญของบริษัททั้งหลาย”  โดยได้จับจองพื้นที่ไว้ ๑ ไร่ ๗๑ ตารางวา วัดนาบุญได้รับพระราวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๘๑ คณะศรัทธาจึงได้ตกลงกันให้มีการประกอบพิธีผูกพัทธสีมา โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ ๒๗ - ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ รวม ๓ วัน ๓ คืน

•แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•ศุกร์•ที่ 29 •มิถุนายน• 2012 เวลา 21:29 น.• )