เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใดพี่เอย   เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า    สองเขือพี่หลับไหล ลืมตื่น ฤาพี่   สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ ถามเผือ ลิลิตพระลอเป็นเรื่องซึ่งเกิดขึ้นระหว่าง 2 เมือง คือ "เมืองสรวง" กับ "เมืองสรอง" โดยเมืองสรวงมีเจ้าเมืองผู้ครองนคร ชื่อว่า "ท้าวแมนสรวง" มีพระชายาพระนามว่า "พระนางบุญเหลือ" ทั้งคู่มีโอรสพระองค์หนึ่งรูปงามมาก นามว่า "พระลอ" ส่วนเมืองสรองนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองสรวงมีเจ้าเมืองชื่ว่า "ท้าวพิมพิสาคร" ท้าวพิมพิสาครผู้นี้มีพระโอรสชื่อว่า "ท้าวพิไชยพิษณุกร" มีพระชายาชื่อว่าพระนางดาราวดี และมีพระธิดาสวยสดงดงามยิ่งชื่อว่า "พระเพื่อน กับพระแพง" คราวหนึ่งท้าวแมนสรวงได้ยกทัพไปตีเมืองสรอง ท้าวพิมพิสาคร ยกทัพไปต่อต้านจนตัวต้องสิ้นชีพไปบนคอช้าง ท้าวพิไชยพิษณุกรผู้เป็นโอรสจึงกันพระศพพระบิดาเข้าเมืองแล้วปิดประตูเมืองรักษาเมืองสรองไว้ได้ ฝ่ายท้าวแมนสรวงเห็นว่าตีเมืองสรองไม่ได้แน่จังยกทัพกลับคืนพระนคร

ทางเมืองสรองจึงอัญเชิญท้าวพิขัยพิษณุกรให้ขึ้นครองราชสืบต่อจากพระบิดาโดยให้พระเพื่อน พระแพงไปปรนนิบัติเจ้าย่าผู้เคยเป็นชายาของท้าวพิมพิสาครที่ประทับอยู่อีกตำหนักหนึ่งส่วนทางเมืองสรวงนั้นท้าวแมนสรวงได้ไปขอ "พระนางลักษณวดี" ให้แก่พระลอ ต่อมาเมื่อท้าวแมนสรวงสิ้นพระชนม์ พระลอก็ได้ขึ้นครองราชสมบัติสืบต่อมาความงามของพระลอนั้นเ)้นที่เลื่องลือไปทั่ว พระเพื่อน พระแพง ได้ทราบข่าวก็เกิดอาการหลงรัก มีอาการกินไม่ได้โศรกเศร้าอยากเห็นหน้าพระลอเป็นอย่างยิ่งจนนางรื่นนางโรยเกิดความสงสารไปติดต่อหมอทำเสน่ห์หลายคนแต่ไม่สำเร็จสุดท้ายไปหาปู่เจ้าสมิงพรายช่วย ปู่เจ้าสมิงพรายจึงได้เล็งฌานดูจึงรู้ว่าบุคคลทั้ง 3 ต้องมาชดใช้กรรมกันในชาตินี้จึงรับช่วยโดยการทำเสน่ห์ไปที่เมืองสรวงของพระลอ ครั้งแรก ปู่เจ้าใช้อาคม "ลูกลม" ติดเหนือยอดยางขนาดเจ็ดคนอ้อมไม่สำเร็จ ทำซ้ำโดยใช้ "ธงสาชาย"  ปักยอดตะเคียนใหญ่ขนาดเก้าคนอ้อมเมืองสรวงได้หมอสิทธิชัยช่วยแก้อาคมได้ทั้งที่สาม ปู่เจ้าเรียนผีเมืองสองไปสู้รบกับผีเมืองสรวงประกฏว่าชนะจึงใช้สลาเหิร (หมากบิน) ไปตกลงในขันหมากของพระลอ พระลอหยิบหมากมาเคี้ยวสัมฤทธิ์ผลพระลอถูกเสน่ห์จนแก้อาคมไม่ได้ และยกพลออกจากเมืองสรวงเจอแม่น้ำกาหลงกั้นกลางและอธิฐานเสี่ยงน้ำ ปรากฏว่า น้ำไหลวนเป็นสีเลือดแดงฉานจึงคิดจะกลับเมืองด้วยมานะและเกรงว่าผู้คนจะติฉินนินทาปู่เจ้าจึงเรียกไก่และคัดเลือกเอาตัวที่สวยงามเสกผีเข้าไปล่อ พระลอเห็นไก่สวยงามมากก็อยากได้ จึงตามไก่พลัดหลงเข้ามาถึงอุทยานดอกไม้หอมของพระเพื่อนพระแพง และปลอมตัวเป็น "เจ้าศรีเกษ" ส่วนนายแก้ว นายขวัญเป็นนายลักษณ์ นายราม เข้าตีสนิทนางรื่นนางโรย จนเกิดรักใคร่ได้เสียกัน และพาพระลอไปพบกับพระเพื่อน พระแพง ในสวนพร้อมกับหลบซ่อนอยู่ในที่ประทับของพระเพื่อน พระแพง ได้ครั่งเดือน ความทราบถึงท้าวพิไชยพิษณุกรณ์ พระบิดา และลอบดูเหตุการณ์เมื่อเห็นพระลอก็เกิดความรักเมตตาทรงอภัยให้และตรัสว่าเมื่อได้ฤกษ์งามยามดีจะทำพิธีอภิเษกให้แต่เจ้าย่ารู้ข่าว เกิดความแค้นและผูกใจเจ็บจึงสั่งให้ทหรากำจัดพระลอเสียโดยอ้างว่าท้าวพิไชยพิษณุกรณ์ให้สิทธิ์โดยการดำเนินการเป็นความลับตกดึกให้ทหารล้อมจับพระลอแต่พระลอคิดสู้ ทุกคนจึงยอมตาย พระเพื่อนพระแพง นางรื่น  นางโรย เข้าช่วยสู้รบเพื่อปกป้องเจ้านายพร้อมกับให้หนีไปด้วยกันสุดท้ายถึงประตูปราสาทโดยไม่อาจต้านทานกำลังทหารไปได้ ที่มีมากกว่าจึงถูกทหารยิงด้วยธนู หน้าไม้ อาบยาพิษติดพระลอ พระเพื่อน พระแพง จนทั้งสามสิ้นชีวิตพร้อมกันในลักษณะยืนพิงกันตายโดยถูกตรึงด้วยลูกธนู หน้าไม้โดยไม่ล้ม หันหน้าสู้เหมือนไม่ตาย ท้าวพิไชยพิษณุกรณ์ทราบข่าวจึงสั่งให้ทหารจับเจ้าย่าเลี้ยงของพระเพื่อน พระแพง ไปประหารพร้อมแจ้งข่าวไปยังเมืองแม่นสรวงพระนางบุณเหลือทราบข่าวจึงได้แต่งทูตพร้อมเครื่องบูชาศพเดินทางไปยังเมืองสรองเพื่อถวายพระเพลิงศพแล้วก็ให้สร้างสถูปขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิอังคารสามกษัตย์และพระพี่เลี้ยงนับแต่นั้นมาเมืองสรวงและเมืองสรองก็กลับมาคืนดีมีไมตรีต่อกัน

 

อุทยานลิลิตพระลอได้ดำเนินการสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549

วัตถุโบราณที่ขุดพบภายในบริเวณอุทยานลิลิตพระลอจากหลักฐานดังกล่าวสามารถกำหนดอาขุได้ว่าอยู่ในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 20 หรือต้นพุทธศตวรรษที่ 21 หลักฐานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าเมืองสรองเป็นเมืองสำคัญที่อยู่บนเส้นทางการติดต่อระหว่างเมืองสำคัญคือสุโขทัยและพะเยาเพราะหลักฐานทางวัตถุโบราณได้มีการค้นพบตามหัวเมืองต่างๆของล้านนาที่มีความคล้ายคลึงกันอันเนื่องมาจากการตั้งถิ่นฐานและอายุสมัยรวมถึงความสัมพันธ์กับหัวเมืองอื่นๆ

แนวกำแพงเวียงสรอง (เวียงหินส้ม) สามชั้นมองเห็นเป็นตระหง่าน หลักฐานสำคัญที่บ่งบอกถึงร่องรอยของ ศิลปะวัตถุที่พบในพื้นที่ 107 ไร่

 

ตำนานรักพระลอ เป็นเรื่องรักโศก บรรยายถึงความรักระหว่างพระเอก คือ พระลอ และนางเอกสองคน คือ พระเพื่อน และพระแพง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความรักของหญิงชายอีกสองคู่ คือ นางรื่น นางโรย และนายแก้ว นายขวัญ พี่เลี้ยงของพระเพื่อนพระแพง และพระลอ ตามลำดับ เนื่องจากเมืองเหนือสองเมืองเป็นศัตรูคู่อริไม่ถูกกัน กษัตริย์เมืองแม้นสรวงพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระลอดิลกราช พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีพระสิริวรกายงดงามหล่อเหลายิ่ง จนเป็นที่ปรากฏของหญิงทั้งหลาย และยังมีเมืองอีกเมืองหนึ่งชื่อว่า เมืองสรอง เมืองนี้ปกครองโดยกษัตริย์พิชัยพิษณุกร กษัตริย์พิชัยพิษณุกรทีพระราชธิดาอยู่ 2 พระองค์ พระองค์พี่ พระนมาว่า พระเพื่อนแก้ว พระองค์น้องพระนามว่า พระแพงทอง พระราชธิดาทั้งสองสาบานกับเจ้าย่าว่าจะแก้แค้นให้เมืองสรองและถ้าผิดคำสาบาน จะต้องตายด้วยคมของอาวุธ เพราะปู่ของธิดาทั้งสองพ่ายแพ้ศึกเสียทีสวรรคต เจ้าย่าจึงส่งคนไปสีซอให้พระลอฟัง เป็นการพรรณนาความงามของพระเพื่อนกับพระแพง และใช้กฤติยามนต์(หลอกให้กินสล่าบินหรือหมาก)เพื่อให้พระลอมาที่นี่แล้วให้ ทัพเมืองพะเยาไปตีเมืองแม้นสรวงและลอบปลงพระชนม์พระลอ เมื่อเพื่อนแก้วและแพงทองรู้เรื่องนี้เข้าจึงให้รื่นและโรยช่วยแก้มนต์ให้ รื่นและโรยจึงไปหาประคำมาไว้ใต้ที่นอนของเพื่อนแก้วกับแพงทอง แต่ไม่ได้ผลรื่นและโรยจึงตัดสินใจไปหาปู่เจ้าสมิงพรายก่อนวันฉลองวันครอง ราชย์ของกษัตริย์พิชัยพิษณุกร แต่สายไปปู่เจ้าสมิงพรายมาเข้าทรงเจ้าย่าแล้วจึงหมดทางแก้ไขกฤตยามนต์โดย สิ้นเชิง หลังจากวันนั้นทั้งสองจึงไปขอให้ปู่เจ้าสมิงพรายดลให้พระลอมาถึงโดยเร็วกว่า เดิมเพื่อทูลเตือนให้กลับไปเสีย ปู่เจ้าสมิงพรายก็ให้ความช่วยเหลือ จนพระลอต้องเสด็จมาเมืองสรองในวันพรุ่งนี้ พระลอต้องมนตร์เสน่ห์ของเจ้าย่าและมนต์ของเจ้าสมิงพราย เข้าก็ทรงเกิดความอยากทอดพระเนตรดูพระเพื่อนกับพระแพงขึ้นมาทันที จึงอำลาพระนางบุญเหลือพระราชมารดา และพระนางลักษณวดีพระมเหสี เสด็จโดยด่วยไปยังเมืองสรองพร้อมด้วยนายแก้วนายขวัญสองพระพี่เลี้ยง เมื่อเสด็จถึงแม่น้ำกาหลง พระลอก็ทรงเสี่ยงน้ำ ปรากฏเป็นลางร้ายไม่ต้องำพระทัยเลย แต่ก็ต้องเสด็จต่อไป เพราะต้องมนตร์เสน่ห์ของเจ้าย่าและเจ้าปู่สมิงพรายเข้าแล้ว ปรากฏมีไก่แก้วของเจ้าปู่สมิงพรายคอยวิ่งล่อพระลอ กับพระพี่เลี้ยงให้ต้องไปจนถึงเมืองสรองจนได้ เมื่อไปถึงสวนหลวง นางรื่นกับนางโรยออกมาที่สวนหลวงก็ทราบข่าวว่าพระลอเสด็จมาถึงแล้ว จึงออกอุบายที่สำคัญคือ ให้พระเพื่อนและพระแพงเสด็จออกไปพบพระลอเพื่อเตือนภัย แต่พระลอเห็นความงามของนางทั้งสองจึงไม่ยอมกลับไปแต่สุดท้ายพระลองก็ ต้องกลับไปพร้อมให้สัญญาว่าจะกลับมาหาอีก วันหนึ่งรื่นและโรยเข้ามาในตำหนักและบอกว่ามีพระลอมาขอเข้าเฝ้า นางเห็นว่าถ้าพระลอออกไปก็อันตรายจึงพาพระลอเข้าไปอยู่ในตำหนักพระเพื่อนพระ แพง ส่วนนายแก้วให้อยู่กับนางรื่น นายขวัญให้อยู่กับนางโรย ทุกอย่างลงตัวหมด เวลาล่วงเลยไปถึงครึ่งเดือน กษัตริย์พิชัยพิษณุกรจึงทรงทราบเมื่อเสด็จมาพระตำหนักพระราชธิดา ทรงเห็นพระลอแล้วก็สงสาร ทรงเมตตารับสั่งให้จัดพิธีอภิเษกสมรสให้ แต่พระเจ้าย่าของพระเพื่อนพระแพง ไม่ทรงชอบพระลอจึงทรงขัดขวางทุกวิถีทาง ทรงอ้างรับสั่งของกษัตริย์พิชัยพิษณุกรว่าให้ทรงสั่งจับพระลอ ทหารจึงพากันจับพระลอไว้ ฝ่ายพระเพื่อนพระแพง และพระพี่เลี้ยงของทั้งสองฝ่ายรวม 4 คนก็ได้ช่วยขัดขวางจนถงที่สุด จนสิ้นพระชนม์และสิ้นชีวิตกันทั้งหมด ก่อนจะสิ้นพระชนม์แพงทองได้เขียนบันทึกเล่มหนึ่งจนเสร็จแล้วม้วนใส่ซองหนัง ไว้ในที่ลับตาคนก่อนที่จะสิ้นพระชนม์ไป เนื้อหามีอยู่ว่า "หลังจากที่ข้าฯ ตายไป จะเป็นสิบปี.....ร้อยปีหรือพันปี.... ก็ตาม คนที่อยู่เบื้องหลังอาจรำลึกถึงเรื่องราวระหว่างข้าฯ สองพี่น้องกับท้าวเธอดุจนิยายฝันอ้นเลือนลาง จากปากหนึ่ง...ไปสู่อีปากหนึ่ง...ท้ายสุดเรื่องราวของข้าฯ ก็จะมีค่าเป็นเพียงนิยายที่ไร้ความหมายเพียงเพื่อเล่าสู่กันฟังอย่างสนุก สนาน... แต่..คงจะมีสักวันหนึ่งคงจะมีคนมาพบบันทึกเล่มนี้เขาจะได้รู้ความจริงระหว่าง เพื่อนแก้ว ข้าฯ และท้าวเธอ ผู้ทรงนามว่าลอดิลกราช ก่อนจะมีผู้พบบันทึกชื่อเสียงของข้าฯ อาจหมองมัว ข้าฯ อาจจะถูกประณามไม่ให้เอาเยี่ยงอย่างในฐานะหญิงโฉดเจ้ามารยาที่เอาชนะใจชาย ด้วยมนตรา! ข้าจะไม่แก้ตัวด้วยประการใดทั้งสิ้น แต่ขอวอนท่าให้อ่าบันทึกนี้จนจบ คราวนี้ท่านอาจจะให้อภัยข้าฯ ได้สักน้อยนิดก็ยังดี....บางครา....ท่านอาจเห็ใจข้าฯได้บ้างว่า ความรักของข้าฯ สองพี่น้องต่างหากที่เป็นความรักที่ต้องมนตรามิใช่ท้าวเธอแต่เพียงผู้เดียว" หลังจากข้อความนี้ก็ได้เล่าความเป็นมาทั้งหมด กษัตริย์พิชัยพิษณุกร เมื่อทรงทราบเรื่องราวก็ทรงให้มีรับสั่งให้จับพระเจ้าย่าและพรรคพวกประหารชีวิตเสียให้ตายตกไปตามกัน เพราะทรงพระพิโรธยิ่งนัก

จากนั้นกษัตริย์พิชัยพษณุกรได้โปรดให้จัดพิธีพระศพอย่างยิ่งใหญ่ นางบุญเหลือพระราชมารดาของพระลอส่งฑูตมาร่วมงานพระศพกษัตริย์(คือพระลอ พระเพื่อนแก้ว และพระแพงทอง) แล้วทรงขอแบ่งพระอัฐิธาตุไปส่วนหนึ่งตั้งแต่นั้นมา เมืองสรองและเมืองแม้นสรวงก็มีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกัน

ปู่เจ้าสมิงพราย