หลักเมืองแพร่ พื้นที่ภายในเขตกำแพงเมืองแพร่มีบริเวณหนึ่งติดกับโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ ใกล้กับศาลากลางจังหวัด ในอดีตบริเวณนี้เรียกว่า สะดือเมือง เดิมมีสภาพเป็นพื้นที่ร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่เป็นที่ตั้งของศาลเล็ก ๆ ที่ชาวบ้านเรียกว่า ตูบผี ต่อมาพื้นที่นี้ได้ถูกถางตัดต้นไม้ใหญ่ออกและนำเอาหลักศิลาจารึกหลักหนึ่งที่พบในวัดร้างศรีบุญเริงบริเวณเรือนจำจังหวัดแพร่มาไว้ แล้วยึดถือเป็นหลักเมืองแพร่ภายหลังจึงได้มีการสร้างศาลหลักเมืองเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขึ้น พ.ศ. ๒๕๓๕ กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดที่ไม่มีหลักเมืองให้จัดหาและสร้างหลักเมือง ตลอดจนปรับปรุงศาลหลักเมืองที่มีอยู่ให้เด่นสง่า จังหวัดแพร่จึงได้จัดสร้างเสาหลักเมืองด้วยไม้ยมหินซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัด ตลอดจนรื้อศาลหลักเมืองเดิมแล้วจัดสร้างใหม่เป็นแบบจัตุรมุข ในวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๓๖ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ทรงวางศิลาฤกษ์ในวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๓๗ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ได้เสร็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดศาลหลักเมืองแพร่ ส่วนศิลาจารึกที่ใช้เป็นหลักเมืองมาแต่เดิมนั้นยังคงตั้งไว้ที่ด้านหลังของเสาหลักเมือง ที่สร้างขึ้นใหม่ในศาลหลักเมือง

•แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•อาทิตย์•ที่ 06 •พฤศจิกายน• 2011 เวลา 12:54 น.• )