เจ้าหลวงพิมพิสาร เป็นโอรสของเจ้าวังขวาเฒ่า กับแม่เจ้าปิ่นแก้ว ซึ่งเป็นน้องสาวของเจ้าอินทวิชัย ได้ประสูติและเจริญวัยในเมืองแพร่อย่างเต็มตัว ปกครองเมืองแพร่ต่อจากเจ้าหลวงอินทวิชัยผู้เป็นลุง ระหว่าง พ.ศ.๒๔๑๕ – ๒๔๓๑ เจ้าหลวงพิมพิสาร เป็นเจ้าเมืองที่ปลูกฝังนิสัยเรื่องการประหยัด และการรู้จักประมาณตนแก่ชาวเมืองแพร่เป็นอย่างดี ดังมีเรื่องเล่ากันว่า หม้อน้ำที่ท่านตั้งไว้ข้างถนนสำหรับผู้สัญจรนั้น จะมีกระบวยใหญ่และกระบวยเล็กอย่างละ ๑ หากใครใช้กระบวยใหญ่ตักดื่มน้ำแล้ว เทน้ำที่เหลือทิ้ง หรือใช้กระบวยเล็กตักดื่มซ้ำเมื่อไม่อิ่ม ต่างก็โดนก๋งยิง (เป็นอาวุธที่ใช้ลูกหินขนาดเล็กเป็นกระสุนสามารถทำให้เจ็บตัวหรือเป็นแผลได้) ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่รู้จักประมาณตนเอง หรือไม่ประหยัด นอกจากนี้เจ้าหลวงพิมพิสารยังมีกิจการค้าไม้สัก ทำรายได้เข้าเมืองแพร่นับหลายล้านบาทต่อปี ทำให้เศรษฐกิจในเมืองแพร่มีความต่อเนื่องและเป็นไปได้ดี เจ้าหลวงพิมพิสารหรือเจ้าหลวงพิมสาร หรือเจ้าหลวงขาเค (พ.ศ.๒๔๑๕ – ๒๔๓๑) เป็นโอรสเจ้าปิ่นแก้ว กับเจ้าวังขวา(เฒ่า) ได้ครองสืบต่อจากเจ้าหลวงอินทวิชัยผู้เป็นลุง (พ.ศ.๒๔๑๕ – ๒๔๓๑) เจ้าหลวงพิมพิสาร (พิมสาร หรือขาเค) มีชายาเอก ชื่อเจ้าแก้วไหลมาราชเทวี (มีหลักฐานในแผ่นศิลา-จารึกที่วัดหลวง) แต่ไม่ปรากฏมีโอรส-ธิดา ด้วยกันหรือไม่
เจ้าหลวงพิมพิสาร (พิมสาร หรือขาเค) มีชายาอีกท่านหนึ่งชื่อ แม่เจ้าธิดา มีโอรส-ธิดา ๔ คนคือ
๑ แม่เจ้าไข สามีชื่อ เจ้าชัยลังกา ไม่มีบุตร-ธิดา
๒ แม่เจ้าเบาะ สามีชื่อ เจ้าหัวหน้ามีบุตรธิดาสองคนคือ
เจ้าฟองคำ สามีไม่ทราบชื่อ
เจ้าน้อยทวงศ์ ภรรยาชื่อแม่เจ้าขันคำ รสเข้ม(ไม่มีบุตรธิดา)
๓ แม่เจ้าอินทร์ลงเหลา สามีชื่อ เจ้าหนานศรีทิ (เจ้านายเมืองน่าน)มีบุตรธิดา ๓ คน
เจ้าศรีเมือง ไม่มีภรรยาและบุตรธิดา อยู่นครลำปาง (ไม่ทราบชื่อ)
แม่เจ้าฟอง บรรเลง มารดาพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ฟู อตตสิวมหาเถระ)
เจ้าแก้วเหลี่ยมเพชร(โสด)
๔ เจ้าเทพวงศ์ หรือเจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ เจ้าหลวงเมืองแพร่ องค์สุดท้าย(พ.ศ.๒๔๓๒-๒๔๔๕)

เจ้าหลวงพิมพิสาร (พิมสาร หรือขาเค) มีภรรยาอีกคนหนึ่ง ชื่อแม่เจ้าคำใย้ มีบุตร ๑ คนคือ
เจ้าสุริยะจางวาง ภรรยาชื่อ แม่เจ้าสุชาดา (ไม่มีบุตรธิดา)
เจ้าสุริยะจางวาง+ นางฟองแก้ว(บ้านสบสาย) มีธิดา ๑ คนคือ
เจ้าบุญนำ วังซ้าย (สารศิริวงศ์)
เจ้าสุริยะจางวาง +นางเป็ง (บ้านถิ่น) มีบุตร ๑ คน คือ
เจ้าน้อย สารศิริวงศ์
เจ้าสุริยะจางวาง + นางแก้ว (บ้านกาซ้อง) มีบุตร ๑ คน คือ
เจ้าน้อยเป็ด สารศิริวงศ์
บุตรธิดาและหลานของเจ้าแม่อินทร์ลงเหลา และเจ้าหนานศรีทิ คือ
๑ เจ้าศรีเมือง ไปมีภรรยาและบุตรธิดาอยู่จังหวัดลำปาง (ไม่ทราบชื่อ)
๒ เจ้าแม่ฟอง บรรเลง สามีชื่อ นายหนานแสน บรรเลง มีบุตรธิดา ๘ คน คือ
นายแก้วบรรเลง + นางปา บรรเลง(ไมมีบุตรธิดา)
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ฟู อตฺตสิวมหาเถระ)
นางน้อย บุญญาทวี + นายชุม บุญญาทวี มีบุตรธิดา ๒ คนคือ
นางบุพพัณห์ นิมมานเหมินท์ +  นายเรือง นิมมานเหมินท์
นายบุญมี บุญญาเทวี (ถึงแก่กรรม)
นายจันทร์ บรรเลง + นางน้อย บรรเลง มีบุตรธิดา ๓ คน คือ
น.ส.ชูศรี  บรรเลง
นางบุญนำ พัฒนรัฐ + นายธำรง พัฒนรัฐ มีบุตร ๓ คน
นางกังวาน บรรเลง
นายนวล บรรเลง + นางฮวก บรรเลง มีบุตรธิดา ๓ คนคือ
นางกานดา ไชยเนตร + นายอมร ไชยเนตร
นายปราโมทย์ บรรเลง
นายบรรจบ บรรเลง (ถึงแก่กรรม)
นางบัวเขียว เทศกาล(บรรเลง) +นายวาน เทศกาล มีบุตรธิดา ๖ คน คือ
นางพิสมัย  เทศกาล (อีก ๕ คนไม่ทราบชื่อ)
นางดารี ไชยประวัติ(บรรเลง) +นายลือ  ไชยประวัติ มีบุตรธิดา ๓ คน คือ
นางอัจฉรา  เนตรทิพย์ (ไชยประวัติ) + พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เนตรทิพย์ มีบุตรธิดา  ๒ คน
นายพลภัทร เนตรทิพย์
น.ส.จรัสแข  เนตรทิพย์
นายสุวิช  ไชยประวัติ (โสด)
ดร.โอฬาร ไชยประวัติ + นางสุชาดา ไชยประวัติ มีบุตรธิดา ๒ คน คือ
น.ส.ทอแสง ไชยประวัติ
นายฐิติพล  ไชยประวัติ
นางอนงค์  ไกรสร (บรรเลง) + นายผล ไกรสร มีบุตรธิดา ๓ คน
นางจุไร ไกรสร
นางกุสุมา พฤติพงศ์(ไกรสร)
นายกรินทร์ ไกรสร
๓ แม่เจ้าแก้ว  เหลี่ยมเพชร (โสด)

 

•แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•อังคาร•ที่ 20 •กันยายน• 2011 เวลา 14:52 น.• )