จังหวัดแพร่ คำกราบบังคมทูล

ของข้าราชการ พ่อค้า คฤหบดีกับราษฎรที่เมืองแพร่ “สรวมชีพ ข้าพระพุทธเจ้าผู้ได้รับฉันทานุมัติของข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย กับทั้งคฤหบดี พ่อค้า ราษฎร บรรดามีตำแหน่งราชการและพึ่งพระบรมสมภารอยู่ในเขตเมืองแพร่ซึ่งพร้อมกันมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสกราบทูลให้ทรงทราบความชื่นชมยินดีในพระมหากรุณาธิคุณซึ่งทรงพระราชอุตสาหะเสด็จฯ มาโปรดเกล้าฯ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายถึงเมืองแพร่ในครั้งนี้

อันเมืองแพร่นี้ แม้ถึงมิใช่เป็นหัวเมืองใหญ่โตก็เป็นเมืองตั้งมาแต่โบราณรุ่นราวคราวเดียวกันกับเมืองอื่นในมณฑลพายัพ และมีเรื่องพงศาวดารเนื่องเป็นทำนองเดียวดันมา คือได้อาศัยพระบรมเดชานุภาพแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประถมในพระบรมราชจักรีวงศ์ได้ทรงช่วยให้พ้นจากอำนาจพม่ามาอยู่ในความปกครองของไทยด้วยกันเอง และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้สืบพระราชวงศ์ดำรงสยามประเทศในรัชกาลภายหลังสืบมา ได้ทรงพระกรุณาทำนุบำรุงให้ร่มเย็นเป็นสุข บ้านเมืองจึงมีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นเป็นอันดับมาจนถึงกาลบัดนี้ พระเดชพระคุณมีแก่ชาวเมืองแพร่ แต่ชั้นบรรพบุรุษสืบมาจนบรรดาประชาชนในปัจจุบัน จะหาสิ่งใดให้เทียบทันนั้นหามีไม่ แต่ว่าแต่ก่อนมามีเมืองแพร่อยู่ในฐานะเป็นบ้านป่าเมืองไกล ได้แต่รำลึกถึงพระเดชพระคุณซึ่งได้ปกเกล้าทุกเช้าค่ำ จนบัดนี้จึงได้ประสพพบบุญลาภอันมิได้มีมาแต่กาลปางก่อน เพราะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระราชอุตสาหะเสด็จฯ มาโปรดเกล้าฯ ถึงเมืองแพร่ ให้ราษฎรทั้งหลายได้โอกาสกราบถวายบังคมชมพระบารมี แต่ได้ทราบข่าวก็บังเกิดความยินดี ช่วยกันจัดเตรียมการรับเสด็จสนองพระเดชพระคุณตามกำลังของบ้านเมือง ซึ่งสามารถจะทำได้ทุกอย่างทุกประการ

บัดนี้ โอกาสซึ่งข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายได้มุ่งหมายมาช้านานถึงได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทั้งสมเด็จพระบรมราชินีนาถทั้งสองพระองค์ในที่มหาสมาคมมาดหมาย ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคลแด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทั้งสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถด้วยศิรเกล้า ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยเจ้าอันเป็นใหญ่เป็นประธานในสากลโลก จงประสิทธิ์สรรพสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลพระชนมสุขสถาพรแด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททั้งสองพระองค์จงทุกประการ ขอให้ทรงมีชัยชนะศัตรูหมู่มารทั่วทิศานุทิศ รุ่งเรืองพระเกียรติคุณวิบุลยฤทธิ์ร่มเกล้า ฯ ชาวสยามให้อยู่เย็นเป็นสุขเป็นนิจนิรันดร์ เทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ”

พระราชดำรัสตอบที่เมืองแพร่ ณ ศาลากลางจังหวัด วันที่ ๙ มกราคม ๒๔๖๙ “ทั้งตัวเราและพระราชินี ขอขอบใจท่านทั้งหลาย ทั้งที่เป็นข้าราชการและคฤหบดี พ่อค้า ประชาชน แม้จนพระสงฆ์ทั่วทั้งเมืองแพร่ บรรดาที่มีแก่ใจจัดการต้อนรับและอวยชัยให้พรแก่เราทั้งสองในครั้งนี้ การที่เราขึ้นมายังมณฑลพายัพครั้งนี้ เป็นความประสงค์ของเราอย่างหนึ่งซึ่งได้มีมาแต่แรกรับราชสมบัติ ด้วยใคร่จะเห็นภูมิลำเนาและคุ้นเคยกับผู้คนชาวมณฑล กับทั้งตรวจตราการงานบ้านเมืองให้แจ้งประจักษ์แก่ตนเอง เพื่อประโยชน์ที่จะปกครองทำนุบำรุงพระราชอาณาเขตต์ และประชาชนในสยามประเทศให้สมบูรณ์พูนสุขเหมือนสมเด็จพระราชบรรพบุรุษของเรา ได้ทรงปกครองมาแต่ปางก่อนและถ้าสามารถจะให้บ้านเมืองกับไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินมีความเจริญสุขสมบัติวัฒนาการยิ่งขึ้นไปกว่าแต่ก่อนได้ก็จะยิ่งมีความปิติยินดีของเราที่ได้อุตส่าห์มายังมณฑลพายัพ

เรามาถึงเมืองแพร่วันนี้ เสมือนได้ย่างเข้าประตูมณฑล ได้เริ่มแรกเห็นบ้านเมืองและผู้คนในฆลฑลพายัพก็ชอบใจ ด้วยเห็นว่าเป็นบ้านเมืองที่มีความสุขสมบูรณ์ด้วยผลแห่งการทำไร่นาค้าขาย และคมนาคม อันควรหวังว่ายังจะเจริญรุ่งเรืองสืบไปได้อีกเป็นอันมากอีกประการหนึ่งเดราได้เห็นประชาชนทั้งหลายซึ่งพากันมาต้อนรับเราตลอดทางที่มา ล้วนมีอาการกิริยาชื่นบานด้วนความปิติยินดี และมาได้พบท่านทั้งหลายพร้อมจกันมาอวยพรชัยให้พรในที่สมาคมนี้เรารู้สึกยินดีด้วนมั่นจ่า การที่เราขึ้นมาคงจะเป็นประโยชน์สมหวังดังกล่าวมาแล้ว แต่ความเจริญอันจะเกิดมีแก่บ้านเมืองและไพร่ฟ้าประชาชนแม้จะอาศัยพระเดชพระคุณเจ้าแผ่นดินเป็นสำคัญก็จริง แต่งต้องอาศัยความประพฤติชอบ ของเหล่าพสกนิกรเป็นอุปการะประกอบกัน เพราะฉะนั้น ขอให้ท่านทั้งหลายตั้งใจช่วยทำนุบำรุงบ้านเมืองด้วยตามฐานะแห่งตนฯ ที่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งที่บังคับบัญชาผู้น้อย ก็จงตั้งใจทำการงานให้เที่ยงตรงตามหน้าที่ด้วยความกรุณาปราณีต่อผู้น้อยเหล่าที่ประกอบการค้าขาย ก็จงพากเพียรหาประโยชน์โดยธรรม และเผื่อแผ่เจือจานจำพวกอื่นที่ขัดแคลนตลอดจนช่วยทำนุบำรุงบ้านเมืองตามสมควรที่เป็นชั้นประชาชนพลเมือง ก็จงหมั่นเพียรในการประกอบอาชีพ และอุตส่าห์สงวนทรัพย์ไว้ใช้สรอย ให้เป็นสารประโยชน์และประพฤติตนตามพระราชกำหนดกฎหมาย คืออย่าเบียดเบียนผู้อื่นเป็นต้น แม้พระสงฆ์ทั้งปวงก็ขอให้เอาเป็นภาระสั่งสอนธรรมานุธรรมปฏิบัติ พระพุทธศาสนาจะได้รุ่งเรืองด้วยความเลื่อมใสของคนทั้งหลาย เมื่อช่วยกันเช่นนั้นแล้ว การทั้งปวงที่เหลือกำลังและความสามารถของชาวเมืองจะทำให้สำเร็จได้ ก็จงไว้เป็นภาระแก่ตัวเราจะตั้งใจทะนุบำรุงท่านทั้งหลายสืบต่อไปเป็นนิตย์

การที่เรามาเมืองแพร่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เราได้ให้สร้างพระแสงราชศักตราขึ้นสำหรับเมืองแพร่องค์หนึ่ง ตามเยื่องอย่างซึ่งสมเด็จพระบรมชนกนาถของเราได้ทรงพระราชดำริสร้างขึ้นสำหรับพระราชทานไว้ในหัวเมืองสำหรับชุบทำน้ำพระพิพัฒน์สัตยาและเป็นที่สักการะต่างพระองค์ และย่อมพระราชทานต่อเมืองได้เสด็จไปถึงเมืองเป็นนิตย์มาแต่ก่อน วันนี้เป็นวันอุดมมงคล เราขอมอบพระแสงราชศักตราไว้สำหรับเมืองแพร่ ให้มีเหมือนกับเมืองอื่นที่เป็นเมืองสำคัญต่อไป ท่านทั้งหลายจงรับรักษาไว้สำหรับบ้านเมือง พร้อมด้วยพรของเรา ขอให้ท่านทั้งหลายและประชาชนชาวเมืองแพร่ ทุกชาติทุกชั้นบรรดาศักดิ์จงมีความเจริญอายุวรรณสุขพละสถาพร และขอเมืองแพร่จงมีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปประการทั้งปวงเทอญฯ

ขณะรถไฟพระที่นั่งถึงสถานีเด่นชัย ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินไปยังจังหวัดแพร่

ห้องบรรทมในรถไฟพระที่นั่ง

•แก้ไขล่าสุด• ( •วัน•พุธ•ที่ 14 •สิงหาคม• 2013 เวลา 13:14 น.• )